ช่วงนี้หลายคนเห็นบิลค่าไฟแล้วอาจตกใจเข่าแทบทรุด กับค่าไฟที่พุ่งสูงปรี๊ดจากการwork from home ทั้งวัน และการต้องเก็บอยู่บ้านเพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อโควิดจนแทบไม่ได้ออกไปไหน จะปิดแอร์ก็ทนไม่ไหวเพราะอากาศมันร้อนเหลือเกิน Adecco จึงมีเคล็ดลับง่ายๆ ที่จะช่วยคุณประหยัดค่าไฟ จากเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เราใช้บ่อยในช่วงนี้กันค่ะ
เคล็ดลับลดค่าไฟจากอุปกรณ์/เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้งานบ่อยในช่วง WFH
1. เครื่องปรับอากาศ
แอร์ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟสุดๆ แต่ก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในช่วงหน้าร้อนนี้เช่นกัน เรามาดูกันค่ะว่ามีวิธีใดบ้างที่คุณสามารถทำได้เพื่อลดค่าไฟในช่วงนี้
- ลดการใช้งานช่วงกลางวัน
ข้อนี้อาจจะดูขัดแย้งสักหน่อย เพราะช่วงเวลาที่เราต้องการเปิดแอร์มากที่สุดก็คือช่วงกลางวันถึงบ่ายๆ นั่นเอง แต่รู้หรือไม่ว่าค่าไฟในวันจันทร์-ศุกร์ ช่วง 00 - 22.00 น. เป็นช่วงระยะเวลา on peak ที่ค่าไฟต่อหน่วยจะแพงกว่าปกติ คืออยู่ที่ประมาณ 5.26 บาทต่อหน่วย ขณะที่ช่วง off peak จะอยู่ที่ 2.18 บาทต่อหน่วย ดังนั้นหากลดการใช้งานช่วงเวลาดังกล่าวได้ก็จะช่วยประหยัดไฟได้มากขึ้น แต่หากทำไม่ได้ ลองดูคำแนะนำของเราในข้อต่อไปได้เลย - ทำงานในห้องนอนตอนช่วงเช้า
หลังจากตื่นนอนและปิดแอร์แล้ว หากปิดหน้าต่างและม่านกันความร้อนไว้ ความเย็นจะยังคงค้างอยู่ วิธีนี้จะช่วยประหยัดการใช้แอร์ในช่วงครึ่งวันเช้าได้อย่างดี - เปิดแอร์ 26 องศา
หากตอนบ่ายร้อนจนทนไม่ไหวและต้องการเปิดแอร์ การตั้งอุณหภูมิที่ 26 องศาจะทำให้แอร์ไม่ทำงานหนักจนเกินไปและไม่กินไฟมากนัก โดยหากยังรู้สึกไม่เย็นพอสามารถเปิดพัดลมช่วยได้ - ทำความสะอาดและตรวจสภาพแอร์
หาเวลาทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศและแผ่นระบายความร้อนบ้าง รวมถึงคอยตรวจเช็คสภาพแอร์ หากแอร์เก่าเกิน 10 ปี หรือชำรุดบ่อย อาจพิจารณาเปลี่ยนแอร์ใหม่ที่คุณภาพดีและประหยัดไฟมากกว่า
2. ตู้เย็น
ตู้เย็นเป็นอีกหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟพอสมควร เรามาดูกันค่ะว่ามีเทคนิคอะไรที่จะช่วยคุณลดค่าไฟช่วง work from home ได้บ้าง
- ไม่ใส่ของแน่นตู้เกินไป
การที่เราใส่ของแน่นตู้จนเกินไปจะทำให้ตู้เย็นต้องทำงานหนัก ดังนั้นควรหาเวลาว่างมาลองจัดตู้เย็นว่ามีสิ่งไหนที่อาจไม่ใช้แล้ว หมดอายุแล้ว ก็จัดการเอาไปทิ้ง บางอย่างที่สามารถเก็บนอกตู้เย็นได้ก็อาจแบ่งออกมาเก็บข้างนอกตู้บ้าง เช่น นมกล่อง หรือ น้ำ โดยแช่เฉพาะของที่จำเป็นเท่านั้น - ปิดให้สนิท ไม่เปิดปิดบ่อยๆ
ช่วง WFH หิวๆ นึกอะไรไม่ออกก็เปิดตู้เย็นก่อน ขอเตือนว่าพฤติกรรมแบบนี้จะทำให้คุณยิ่งเปลืองค่าไฟ ดังนั้นอย่าเปิดตู้เย็นบ่อยเกินไป และเมื่อเปิดแล้วก็ควรปิดให้สนิททุกครั้งเพื่อประหยัดค่าไฟ
3. หลอดไฟ
หลอดไฟเป็นอุปกรณ์ที่กินไฟน้อย ทำให้หลายคนมักมองข้ามเมื่อคิดจะลดค่าไฟ แต่ด้วยความที่หลอดไฟเป็นอุปกรณ์ที่เราใช้กันทุกวัน หากประหยัดได้ก็สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายได้เช่นกันค่ะ
- ปิดทุกครั้งที่ไม่ใช้ เปิดหน้าต่างรับแสงธรรมชาติ
การฝึกปิดสวิตช์เมื่อไม่ใช้ให้เป็นนิสัย จะช่วยป้องกันการเสียค่าไฟโดยไม่จำเป็น นอกจากนี้หากไม่ได้เปิดแอร์ การเปิดหน้าต่างให้แสงเข้ามาก็จะช่วยลดการใช้ไฟจากหลอดไฟได้อีกด้วย - เลือกใช้หลอด LED
หลอด LED สามารถประหยัดไฟได้มากกว่าหลอดไฟธรรมดา 4 เท่า และมีอายุการใช้งานที่มากกว่าหลอดไฟธรรมดา 8 เท่า ดังนั้นหากถึงคราวต้องเปลี่ยนหลอดไฟเมื่อไรอย่าลืมเลือกใช้หลอด LED กันค่ะ
4. คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่เราไม่สามารถลดการใช้งานได้ แต่ก็สามารถใช้ให้คุ้มค่ามากขึ้นได้ด้วยวิธีง่ายๆ เหล่านี้
- เลิกใช้ screen saver และปิดจอเมื่อลุกออกจากที่นั่ง
เมื่อเราไม่ได้ใช้คอมพ์สักพัก screen saver จะทำงาน แต่การทำงานของ screen saver นี้จะกินไฟเหมือนการใช้จอปกติ หนำซ้ำหาก screen saver มีกราฟิคล้ำๆ ก็จะยิ่งกินไฟมากกว่าปกติ ดังนั้นควรยกเลิกการใช้ screen saver เพื่อให้คอมพ์เข้าสู่ sleep mode และหากไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานาน ไม่ว่าจะกินข้าว ไปทำธุระ หรือเปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์อื่นทำงาน ควรปิดหน้าจอทุกครั้งเพื่อประหยัดพลังงาน - ถอดปลั๊กเมื่อเลิกใช้
การที่เราปิดคอมพ์แต่ไม่ถอดปลั๊กนั้น ในทางเทคนิคก็ยังมีไฟไปเลี้ยงคอมพ์อยู่ดังนั้นเมื่อเลิกใช้งานจึงควรถอดปลั๊กทุกครั้ง นอกจากจะประหยัดไฟแล้ว ยังลดความเสี่ยงจากไฟกระชากหรือไฟฟ้าลัดวงจร ได้อีกด้วย
5. เครื่องซักผ้า
หน้าร้อนแบบนี้คนที่ work from home บางคนก็อาจจะอาบน้ำบ่อย เปลี่ยนเสื้อผ้าบ่อย จึงอาจต้องใช้งานเครื่องซักผ้ามาก ซึ่งเครื่องซักผ้าก็เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกชนิดที่ใช้พลังงานสูง หากสามารถใช้อย่างคุ้มค่าก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นด้วยเช่นกัน
- ซักผ้าคราวละมากๆ
การซักผ้าควรซักเมื่อจำนวนมากพอโดยซักตามปริมาณที่เครื่องกำหนด เพราะถ้าผ้าน้อยเกินไปก็จะไม่คุ้มค่าไฟ และทำให้ต้องซักบ่อยจนสิ้นเปลืองไฟมากกว่าเดิม หากมีเสื้อผ้าที่ต้องการซักน้อยควรใช้วิธีซักมือแทน - ตากแดดแทนอบผ้า
การ work from home ทำให้เราสามารถเอาเวลาที่เคยเสียไปกับการเดินทางมาซักผ้าในช่วงเช้าได้ อีกทั้งอากาศร้อนแบบนี้มีแดดดีๆ เหลือเฟือ จึงไม่จำเป็นต้องอบผ้าอีกต่อไป การเปลี่ยนจากอบผ้ามาตากแดดก็จะช่วยประหยัดการใช้ไฟได้ดีทีเดียว