การสร้างประโยชน์จากโปรแกรมการฝึกงาน

พฤษภาคม 18, 2558 ความรู้เชิงลึกด้านทรัพยากรบุคคล
การสร้างประโยชน์จากโปรแกรมการฝึกงาน
บทนำ
 
ในทุกๆปี ประเทศทั่วเอเชียจะมีนักเรียนนักศึกษาที่ไม่ว่ากำลังศึกษาอยู่ หรือเพิ่งจะจบใหม่หลายพันคนมองหางานทำในช่วงปิดเทอม หรือมองหาสถานที่ฝึกงานเพื่อนำไประบุลงในเรซูเม่ของตนว่ามีประสบการณ์ทำงานหรือการฝึกงานกับบริษัทที่มีชื่อเสียง ไม่ว่าการฝึกงานจะถูกมองไปในลักษณะใดก็ตาม สิ่งหนึ่งที่นับได้ว่าเป็นจริงเสมอคือ ไม่เพียงแต่การฝึกงานที่เหมาะสมจะสามารถช่วยสร้างความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในการเริ่มต้นสายอาชีพในอนาคตได้แล้ว แต่การฝึกงานก็ยังสามารถช่วยทำให้องค์กรได้รับข้อมูลความคิดใหม่ๆ เพิ่มเติมด้วย
เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งที่ในอดีตที่ผ่านมา นักศึกษาฝึกงานนั้นบางครั้งถูกมองให้เป็นผู้ที่เข้าไปทำงานอะไรก็ตามที่ไม่มีใครอยากทำ หรือถูกใช้ให้ไปทำงานที่น่าเบื่อ อาทิ งานถ่ายเอกสาร พิมพ์งาน เข้าเล่มรายงาน วิ่งชงกาแฟ จัดเตรียมห้องประชุม เป็นต้น อย่างไรก็ดีในปัจจุบัน การฝึกงานได้มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น และการฝึกงานไม่ใช่แค่เพียงเพื่อให้นำชื่อบริษัทไประบุลงในเรซูเม่อีกต่อไป การฝึกงานเป็นการที่ได้เข้าไปเรียนรู้ประสบการณ์ในโลกของการทำงานจริง และการได้รู้จักและเข้าใจธุรกิจสายงานที่ตนมีความสนใจ ต้องการเข้าไปทำเมื่อถึงเวลาเข้าสู่ตลาดแรงงาน
การฝึกงานนั้นสร้างประโยชน์ให้กับทั้งสองฝ่ายกล่าวคือ นอกจากนักศึกษาฝึกงานจะได้ประโยชน์จากการฝึกงานแล้ว บริษัทที่มีโปรแกรมการฝึกงานที่ดีก็ยังจะได้รับความคิดใหม่ๆของหนุ่มสาวที่มีความกระตือรือร้นและสนุกสนานในการนำเสนอมุมมองใหม่ๆให้กับธุรกิจที่เข้าไปฝึกงานด้วย ทั้งนี้ยังนับได้ว่าเป็นการเปิดโอกาสให้ทางบริษัทได้เลือกนักศึกษาฝึกงานที่เก่งและดีที่สุดเข้ามาร่วมงานด้วย และนักศึกษาเหล่านี้ก็พร้อมที่จะร่วมเติบโตไปในสายอาชีพร่วมกับบริษัทที่มีความเต็มใจที่จะช่วยสนับสนุนให้พวกเขามุ่งไปยังทิศทางที่พวกเขาต้องการ
ในยุโรป โปรแกรมการฝึกงานที่มีโครงสร้างแบบแผนที่ดีของประเทศต่างๆ เช่น เยอรมนี และ สวิตเซอร์แลนด์ มีส่วนช่วยเหลือสนับสนุนการลดอัตราการว่างงาน และการแข่งขันในการเข้าสู่ตลาดแรงงานอีกด้วย
ประโยชน์ที่นักศึกษาฝึกงานได้รับจากการเข้ารับการฝึกงาน
 
ช่วงเวลาที่ถือว่านักศึกษาฝึกงานเป็นเพียงแค่ผู้ที่เข้ามาช่วยทำงานที่น่าเบื่อของบริษัท เช่น ช่วยถ่ายเอกสารจำนวนมาก หรือทำงานที่ไม่มีความสำคัญนั้นผ่านเลยไปแล้ว นักศึกษาฝึกงานในปัจจุบันนี้อยู่ในช่องทางเร่งด่วนต่อการได้เข้าไปทำงานประจำในสายธุรกิจที่พวกเขาสนใจเลือกทำ บริษัทที่มีความคิดและใช้วิธีการที่ถูกต้องเหมาะสมในโปรแกรมการฝึกงาน จะได้รับพนักงานที่มีความความทุ่มเทและความซื่อสัตย์ซึ่งผ่านการฝึกอบรมตามมาตรฐานของบริษัทนับตั้งแต่วันแรกในการทำงานของพวกเขา
มีบริษัทจำนวนมากที่ตระหนักถึงความสำคัญของโปรแกรมการฝึกงานที่ดี บริษัทยักษ์ใหญ่ เช่น Deloitte, Google, KPMG และ ExxonMobil ต่างก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นบริษัทที่มีโปรแกรมการฝึกงานที่ดี นิตยสารฟอร์บส (Forbes) ได้จัดอันดับบริษัทที่มีโปรแกรมการฝึกงานที่ดีที่สุดของปี 2015 โดยบริษัทที่ครองอันดับหนึ่งได้แก่ บริษัทที่ปรึกษา Bates White ของสหรัฐอเมริกา เกณฑ์ที่ใช้พิจารณาการจัดอันดับนี้ดูจากการที่นักศึกษาฝึกงานได้เข้ารับการฝึกงานที่บริษัทนี้ในปีที่ผ่านมา ได้รับโอกาสให้เข้าร่วมทำงานจริงกับนัก เศรษฐศาสตร์ นักกฏหมาย ระดับปริญญาเอก และพนักงานระดับปริญญาโทซึ่งเป็นผู้จัดทำเศรษฐศาสตร์วิเคราะห์ให้กับลูกค้าของบริษัท นักศึกษาฝึกงานเหล่านี้ได้เรียนรู้และทำงานกับฐานข้อมูลที่สลับซับซ้อน ได้ทำงานวิจัยของทั้งภาคธุรกิจ และมีส่วนในการสร้างการนำเสนอผลงานที่นำไปแสดงให้กับลูกค้าด้วย และที่สำคัญพวกเขาได้มีโอกาสเข้าไปรับผิดชอบทำงานในเนื้องานจริงเสมือนเป็นพนักงานประจำของบริษัท ซึ่งทำให้พวกเขาได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริงที่มีคุณค่ายิ่ง
BP America ซึ่งครองอันดับหนึ่งในปีที่ผ่านมา ได้เปิดโอกาสและอนุญาตให้นักศึกษาฝึกงานเข้าร่วมทำงานในโครงการพัฒนาระบบท่อส่งผ่านน้ำมันปิโตรเลียมหรือก๊าซธรรมชาติ (pipelines) และเข้าไปมีส่วนช่วยในการหาวิธีการนำพลังงานทางเลือกมาใช้ประโยชน์ พวกเขายังได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสำรวจแหล่งพลังงานสำรองแหล่งใหม่ๆ และพยายามพัฒนาผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงสะอาด (clean fuels) และผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น น้ำมันเครื่องชีวภาพ (bio-based engine oil) อีกด้วย
"การฝึกงานจริงๆแล้วกลายเป็นเรื่องที่ว่า ประสบการณ์แบบไหนที่พวกนักศึกษาฝึกงานต้องการที่จะได้รับจากการฝึกงาน และ พวกเขามุ่งมั่นทุ่มเทอย่างจริงจังมากน้อยแค่ไหนในการเริ่มต้นสายอาชีพที่พวกเขาต้องการ" Christophe Duchatellier ซีอีโอของอเด็คโก้เอเชีย กล่าว "การฝึกงานในปัจจุบันนี้ครอบคลุมและตอบสนองได้อย่างหลากหลายมากขึ้น แต่ละบุคคลจะต้องพิจารณาเป้าหมายในการฝึกงานอย่างระมัดระวังและต้องเตรียมพร้อมที่จะทำงานหนัก เพราะถ้าพวกเขาไม่ได้จริงจังกับการฝึกงานที่พวกเขาต้องการ คนอื่นๆก็จะเข้ามาแย่งงานนั้นไปจากพวกเขา"
การฝึกงานนั้นไม่ได้ถูกสร้างให้ทัดเทียมเหมือนกันไปทั้งหมด
 
แน่นอนว่า บางครั้งการฝึกงานก็มีผลทางด้านลบ การฝึกงานในลักษณะที่ทำหน้าที่แค่ช่วยชงกาแฟ ถ่ายเอกสาร หรือ ช่วยจัดเก็บเอกสารเข้าแฟ้มยังไม่หมดยุคไปซะเลยทีเดียว ซึ่งก็หมายความว่า ยังมีงานประเภทจุกจิกที่ต้องกัดฟันทำให้เสร็จ และบางครั้งงานนั้นตกไปเป็นหน้าที่ของนักศึกษาฝึกงานที่ต้องมารับไปทำ จะว่าไปแล้วในปัจจุบันงานสามัญจำเจนั้นลดน้อยลงมาก และมีงานสำคัญที่มีความหมายให้นักศึกษาฝึกงานได้ทำเพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับการฝึกงานในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา .
นอกจากนี้ ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีโปรแกรมการฝึกงานที่มีคุณภาพมานานหลายทศวรรษ ในหลายประเทศยังมีบางบริษัทที่ยังคงจ่ายเงินค่าฝึกงานให้นักศึกษาฝึกงานแค่เพียงเล็กน้อยพอเป็นพิธี ซึ่งความคิดแบบนี้จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลง แม้ว่าเงินค่าตอบแทนจะเล็กน้อย แต่ประสบการณ์ที่ได้รับนั้นชดเชยได้คุ้มค่ายิ่ง นักศึกษาฝึกงานในปัจจุบันนี้ได้รับการปฏิบัติเสมือนเป็นผู้บริหารระดับต้น (Junior executives) รับผิดชอบงานเฉกเช่นพนักงานประจำและได้รับประสบการณ์การทำงานในโลกแห่งความเป็นจริง อย่างไรก็ตามยังมีหนทางในการเข้ารับการฝึกงานในบางส่วนของเอเชีย ในขณะที่หลายๆบริษัทให้ประสบการณ์ในการทำงานอย่างจริงจัง ด้วยการใช้หลักการให้นักศึกษาฝึกงานทำงานเฉกเช่นพนักงานประจำ แต่ยัังมีบางบริษัทที่ยังคงรอดูจังหวะหรือรอดูว่าบริษัทอื่นๆในสายธุรกิจเดียวกันทำอย่างไรกับโปรแกรมการฝึกงาน และอยู่ในระหว่างการสร้างโปรแกรมการฝึกอบรมที่มีรูปแบบ เพื่อใช้อบรมนักศึกษาฝึกงานในธุรกิจที่มีความสลับซับซ้อนเข้าใจยากของพวกเขา
ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank - ADB) เป็นตัวอย่างที่ดีอีกตัวอย่างหนึ่ง ที่มีโปรแกรมการฝึกงานถึงสามครั้งต่อปี และเปิดโอกาสให้นักศึกษาฝึกงานได้ทำงานร่วมกับพี่เลี้ยงที่มีประสบการณ์ ในโครงการต่างๆของธนาคาร เพื่อให้นักศึกษาฝึกงานนั้นได้รับความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในเรื่องการพัฒนาทางการเงิน และผลกระทบของการทำงานของธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชียที่มีต่อภูมิภาคอื่น ดังนั้นในขณะที่ยังอยู่ในช่วงวัยรุ่น การฝึกงานในเอเชียได้กลายมาเป็นหนทางสำหรับหนุ่มสาวมืออาชีพรุ่นใหม่ในการได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และความรู้ลึกซึ้งในสายธุรกิจที่พวกเขาสนใจต้องการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งอย่างรวดเร็ว
ประโยชน์ที่องค์กรได้รับจากโปรแกรมการฝึกงาน
 
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าโปรแกรมการฝึกงานนั้นเอื้อประโยชน์มากมายให้กับนักศึกษาจบใหม่ ทางด้านบริษัทจะได้รับประโยชน์อะไรจากโปรแกรมการฝึกงานเหล่านี้? ในอดีตคำตอบที่ได้รับคือ บริษัทได้ประโยชน์จากนักศึกษาฝึกงานเข้ามาช่วยงาน อย่างไรก็ตามในปัจจุบันนี้ผลประโยชน์ที่บริษัทได้รับจากนักศึกษาฝึกงานนั้นมีมากมายมหาศาล และแน่นอนว่าไม่ใช่เพียงเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายแน่ๆ
ประโยชน์ที่เห็นได้ชัดที่สุดอย่างหนึ่งคือ ความสามารถในการดึงดูดให้คนเก่งมีความสามารถหน้าใหม่ๆเข้ามา ร่วมงานด้วย โปรแกรมการฝึกงานที่ดีที่เสริมสร้างให้เกิดประสบการณ์ที่มีคุณค่าและน่าจดจำจะมีโอกาสช่วยดึงดูดคนเก่งและดีที่สุดจากมหาวิทยาลัยชั้นนำให้เข้ามาร่วมฝึกงานกับบริษัท การจัดให้มีโปรแกรมการฝึกงานเป็นวิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งที่จะดึงดูดคนที่มีความกระตือรือร้น คนที่มีความปรารถนาอย่างแรงกล้า คนที่มีแรงขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จเข้ามาร่วมงานกับบริษัท องค์กรเองก็มีโอกาสจะได้เห็นบุคคลที่มีความสามารถอย่างแท้จริงที่องค์กรไม่คิดว่าจะสามารถดึงดูดให้เข้ามาร่วมงานกับองค์กรได้ในภายหลัง และองค์กรสามารถดึงให้พวกเขามาร่วมงานตั้งแต่แรกเริ่มก้าวเข้าสู่สายอาชีพของพวกเขาได้ แต่ก็ใช่ว่านักศึกษาฝึกงานทุกคนจะเก่งจะดีทั้งหมด ดังนั้นถ้าบริษัทมีโปรแกรมการฝึกงานที่มีโครงสร้าง มีระบบที่ดีก็จะช่วยทำให้บริษัทสามารถคัดเลือกนักศึกษาฝึกงานที่ดีที่สุดเข้าร่วมทำงานเป็นพนักงานประจำของบริษัทหลังจากการฝึกงานเสร็จสิ้นลง
ไม่ใช่เรื่องยากในการดึงดูดนักศึกษาฝึกงานใหม่ๆที่มีศักยภาพ ในโลกปัจจุบันที่มีการเชื่อมต่อกันอย่างดี การรับรู้ข่าวสารเกี่ยวกับโปรแกรมการฝึกงานที่เป็นประโยชน์นั้นใช้เวลาไม่นานในการเข้าถึงหูของนักเรียน นักศึกษาทั่วโลก บางครั้งเพียงแค่โพสต์ลงบน Facebook ครั้งเดียว ข่าวนั้นก็จะแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วบนโลกออนไลน์ ไม่นานก็มีคนมาดูเป็นแสนเป็นล้าน แล้วทำไมคุณถึงอยากให้นักศึกษาโพสต์เกี่ยวกับโปรแกรมการฝึกงานของบริษัทคุณลงใน Facebook ล่ะ? ก็เพียงเพราะ Facebook คือการโฆษณาที่ใช้ต้นทุนต่ำ และทำให้เกิดการรับรู้ รู้จักได้อย่างรวดเร็วและดีที่สุดนั่นเอง วิธีนี้คือ วิธีที่ดีและหมาะกับบริษัทขนาดเล็กที่อาจจะมีปัญหาในการดึงดูดนักศึกษาฝึกงานเพราะบริษัทไม่เป็นที่รู้จักนั่นเอง
ประโยชน์อีกอย่างคือ อิทธิพลในเชิงบวกที่นักศึกษาฝึกงานมีต่อสภาพแวดล้อมในการทำงาน ในฐานะที่เป็น คนทำงานหน้าใหม่ในด้านธุรกิจและวัฒนธรรมองค์กร นักศึกษาฝึกงานจะให้มุมมองใหม่ๆทั้งต่อธุรกิจและต่อสภาพแวดล้อมในการทำงานได้ นักศึกษาฝึกงานส่วนใหญ่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการทำงานมาก่อน และมักจะถามคำถามพื้นๆในเรื่องของกระบวนการทำงาน และเรื่องการดำเนินธุรกิจโดยทั่วไป สิ่งนี้ถือเป็นโอกาสอันดีของบริษัทในการทบทวนตรวจสอบและปรับปรุงประสิทธิภาพของสถานที่ทำงาน การที่มีนักศึกษาฝึกงานมาช่วยอัดฉีดมุมมองใหม่ๆจะสามารถสร้างความแตกต่างในการรักษาแรงกระตุ้น และรับรองความสำเร็จของธุรกิจในอนาคต
เป็นที่น่าสนใจว่าการฝึกงานยังมีส่วนช่วยให้เกิดการปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานในบริษัทได้อีกด้วย สำหรับนักศึกษาฝึกงานเรื่องของแรงจูงใจในการทำงานให้ดีนั้นไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เพราะพวกเขาถูกบังคับให้ต้องพิสูจน์ตัวเอง และพวกเขารู้ตัวดีว่าพวกเขาจะถูกตัดสินจากคะแนนหลังโปรแกรมการฝึกงานสิ้นสุด หรือความเป็นไปได้ที่จะได้รับการจ้างงานบรรจุเข้าเป็นพนักงานประจำ ดังนั้นจึงพวกเขามักจะมีแรงจูงใจสูงอยู่แล้วในการปฎิบัติหน้าที่ที่หลากหลายให้ดีอย่างเต็มที่ สิ่งที่น่าสนใจก็คือพนักงานของบริษัทก็ได้รับผลกระทบในเชิงบวกจากการมีนักศึกษาฝึกงานเข้ามาร่วมทำงานด้วย ในหลายกรณีพบว่าพนักงานเองก็จะมีการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของตัวเอง เพื่อแสดงให้นักศึกษาฝึกงานเห็นและนำไปเป็นแบบอย่างที่ดี รวมทั้งจะได้สามารถให้ความช่วยเหลือนักศึกษาฝึกงานที่กำลังพยายามอย่างหนักเพื่อจะทำงานที่ได้รับมอบหมายให้ได้ดี นอกจากนี้โปรแกรมการฝึกงานเหล่านี้ยังถือเป็นโอกาสเหมาะที่นายจ้างจะใช้เป็นบททดสอบทักษะความเป็นผู้นำของพนักงานอีกด้วย โดยการมอบหมายให้พนักงานเข้าไปดูแลการทำงานของนักศึกษาฝึกงาน ความรับผิดชอบในการนำนักศึกษาฝึกงานเพื่อทำโครงการจริงๆ หรือแม้กระทั่งการทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงจะแสดงให้นายจ้างเห็นว่า พนักงานผู้นั้นมีความพร้อมที่จะรับผิดชอบในบทบาทหน้าที่ที่สูงขึ้นในบริษัทหรือยัง
การทำให้โปรแกรมการฝึกงานสร้างประโยชน์ให้กับองค์กรได้จริง
 
แล้วอะไรคือส่วนที่ทำให้เกิดโปรแกรมการฝึกงานที่ดี? สิ่งแรกที่จะต้องนำมาพิจารณาคือ โปรแกรมการฝึกงานนั้นต้องถูกสร้างขึ้นมาจากระดับเริ่มต้นหรือระดับพื้นฐาน บริษัทจำต้องพิจารณาว่าจะทำอย่างไรให้นักศึกษาฝึกงานเข้ากับกระบวนการและวัฒนธรรมการทำงานของบริษัทได้ หากบริษัทสร้างโปรแกรมการฝึกงานขึ้นมาเพราะบริษัทขาดคนทำงานและต้องการแค่คนเข้ามาช่วยทำงานชั่วคราว อาจทำให้โปรแกรมการฝึกงานนั้นกลายเป็นประสบการณ์ที่ไม่พึงประสงค์สำหรับทุกฝ่าย
"สิ่งสำคัญที่นักศึกษาฝึกงานควรได้รับหลังจากเสร็จสิ้นการฝึกงาน คือความรู้หรือความชำนาญที่ได้จากการปฏิบัติงานในสิ่งที่พวกเขาสนใจเพื่อมุ่งเป็นอาชีพ" Mark De Smedt ผู้อำนวยการสูงสุดฝ่ายทรัพยากรบุคคลของกลุ่มบริษัทอเด็คโก้กล่าว "สิ่งที่นักศึกษาฝึกงานโดยทั่วไปมองหาคือ โอกาสในการนำสิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้ในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยมาใช้งานจริงและเพิ่มประสบการณ์และทักษะของพวกเขา ขึ้นอยู่กับว่าบริษัทที่ให้เข้ามาฝึกงานจะให้โอกาสนั้นกับพวกเขาหรือไม่ และหากบริษัทสามารถให้ในสิ่งที่นักศึกษาฝึกงานต้องการได้ บริษัทก็จะไม่ขาดแคลนนักศึกษาฝึกงานเลย"
เพื่อให้ได้ประโยชน์จากนักศึกษาฝึกงานมากที่สุด บริษัทจำเป็นต้องเปิดใจเรื่องความสามารถโดยธรรมชาติของนักศึกษาฝึกงาน นับเป็นเรื่องไร้ประโยชน์หากจะขีดเส้นจำกัดให้นักศึกษาฝึกงานทำตามบทบาทหน้าที่ที่กำหนดไว้เท่านั้น ในขณะที่พวกเขาได้แสดงให้เห็นถึงทักษะความสามารถด้านอื่นๆ บริษัทควรพิจารณาผลการปฎิบัติงาน และความสามารถของพวกเขาก่อน แล้วค่อยกำหนดให้พวกเขารับผิดชอบทำงานในสิ่งที่พวกเขาจะทำได้ดีและประสบความสำเร็จได้มากที่สุด ซึ่งการทำเช่นนี้จะทำได้ก็ต่อเมื่อ บริษัทมีความมุ่งมั่น ร่วมรับผิดชอบในเรื่องการจัดสรรทรัพยากรเพื่อส่งเสริมการพัฒนานักศึกษาฝึกงาน และการมอบหมายพี่เลี้ยงให้ดูแลนักศึกษาฝึกงานเป็นอีกวิธีที่มีประโยชน์มากในการประเมินทักษะความสามารถของนักศึกษาฝึกงานได้อย่างต่อเนื่อง นักศึกษาฝึกงานมีแรงจูงใจ และความอยากรู้อยากเห็น อยากเรียนรู้ และเมื่อพี่เลี้ยงได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างเหมาะสม พี่เลี้ยงก็จะสามารถช่วยสนับสนุนความคิดริเริ่มของพวกเขา เพื่อรองรับการใช้ประโยชน์จากศักยภาพของพวกเขาได้อย่างเต็มที่อย่างง่ายดาย
ตามหลักแล้ว ช่วงเวลาประมาณ 20-30% ของเวลาทำงานของพี่เลี้ยงควรจะถูกนำไปใช้ในการให้ความรู้แก่นักศึกษาฝึกงานอย่างเต็มที่ และการให้คำแนะนำติชมเป็นประจำเป็นเครื่องมือสำคัญในการประเมินความคืบหน้าของการฝึกงานและของโครงการที่พวกเขาร่วมกันทำอยู่ "สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้เสมอเกี่ยวกับนักศึกษาฝึกงานก็คือ พวกเขานั้นยังใหม่ต่อทุกสิ่งทุกอย่าง" Mark De Smedt ผู้อำนวยการสูงสุดฝ่ายทรัพยากรบุคคลของกลุ่มบริษัทอเด็คโก้กล่าว "หากบริษัทต้องการให้การลงทุนกับนักศึกษาฝึกงานนั้นเกิดความคุ้มค่า บริษัทจำต้องจัดให้มีการแนะแนวและทิศทางของโปรแกรมการฝึกงานที่เหมาะสม"
เคล็ดลับบางประการในการทำให้โปรแกรมการฝึกงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ได้แก่:
• ให้การต้อนรับนักศึกษาฝึกงานอย่างเป็นทางการ มีการแนะนำนักศึกษาฝึกงานให้รู้จักกับผู้ร่วมงานทุกคน
• ทำให้แน่ใจว่านักศึกษาฝึกงานมีพี่เลี้ยงที่สามารถพึ่งพาได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตอบข้อซักถามและสามารถให้คำแนะนำให้กับนักศึกษาฝึกงานได้เป็นอย่างดี
• กำหนดให้นักศึกษาฝึกงานเป็นส่วนหนึ่งของทีมงาน ให้เข้าไปมีส่วนร่วมในการทำงานทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นในการ ประชุมทีมงาน และการร่วมทำกิจกรรมต่างๆ
• ส่งเสริมให้นักศึกษาฝึกงานกล้าที่จะถามคำถาม (เพราะการถามคือวิธีที่ดีที่สุดในการเรียนรู้)
• มีการตรวจสอบประเมินผลการปฏิบัติงานที่มีมาตรฐานที่ช่วยเสริมสร้างการติชมในเชิงสร้างสรรค์
• รับฟังในสิ่งที่นักศึกษาฝึกงานกล่าวเกี่ยวกับประสบการณ์ที่พวกเขาได้เรียนรู้ และเพื่อให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์
    Christophe Duchatellier ซีอีโอของอเด็คโก้เอเชีย กล่าวเพิ่มเติมว่า "เมื่อโปรแกรมการฝึกงานได้รับการสร้างขึ้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องคอยปรับปรุงโปรแกรมไม่ให้ล้าสมัย ต้องมีการตรวจสอบทบทวนประสิทธิภาพการทำงานของโปรแกรมการฝึกงาน และต้องดูว่าทั้งนักศึกษาฝึกงานและบริษัทได้รับประโยชน์อย่างไรบ้างอยู่เสมอ พึงระลึกว่า โปรแกรมการฝึกงานที่นักศึกษาฝึกงานเข้าร่วมแล้วมีความสนุกสนานเพลิดเพลิน จะนำไปสู่ประสบการณ์เชิงบวกที่พวกเขาจะนำไปแชร์ในหมู่เพื่อนฝูง ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกให้กับองค์กร และจะเป็นสิ่งดึงดูดคนเก่งที่มีความสามารถสูงให้เข้ามาร่วมทำงานกับบริษัทของคุณได้อย่างแน่นอน "
    ไม่ว่าใครจะมองอย่างไร ทั้งมุมมองของบริษัทและของนักศึกษาฝึกงาน โปรแกรมการฝึกงานที่ได้รับการออกแบบวางแผนมาเป็นอย่างดี จะสร้างประโยชน์มากมายให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง นักศึกษาฝึกงานเองจะได้รับประสบการณ์ในการทำงานที่มีประโยชน์ ได้รู้จักได้เข้าใจในสายธุรกิจอย่างลึกซึ้งถ่องแท้ และบริษัทเองก็ได้มีโอกาสในการเลือกพนักงานรุ่นใหม่ๆที่มีคุณภาพเข้ามาร่วมงานกับองค์กรด้วย

    ดาวน์โหลดฉบับเต็ม

    ประกาศนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของอเด็คโก้ประเทศไทย

    เพื่อให้สอดคล้องกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และสอดคล้องกับจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจของ กลุ่มบริษัทอเด็คโก้ประเทศไทย (“บริษัท”) ข้อความดังต่อไปนี้ถือเป็นนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งก่อนที่คุณจะเข้าใช้บริการ กรุณาทราบว่าบริษัทได้ประกาศนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ระยะเวลาในการเก็บรวบรวม รวมถึงสิทธิในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ ผู้ใช้งาน ผู้สนใจหางาน และผู้สมัครงานกับบริษัททั้งทาง offline และ online ไว้โดยชัดแจ้งแล้ว

    ขอได้โปรดศึกษาทำความเข้าใจรายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ หน้าหลัก ของเรา

    หากคุณได้บันทึกข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในหน้าใช้งานนี้ บริษัทถือว่าคุณได้ให้การยอมรับ และให้ความยินยอมแก่บริษัทในการดำเนินการตามคำขอของคุณเพื่อให้เข้าเป็นคู่สัญญากับบริษัท อันเป็นการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยตามฐานสัญญา (contract base)

    หากคุณไม่ยินยอมให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล คุณสามารถกดย้อนหลังหรือออกจากหน้าใช้บริการนี้ได้ด้วยตัวของคุณเอง

    กรุณากรอกข้อมูลข้างล่างนี้เพื่อรับลิงค์ดาวน์โหลดไฟล์เอกสาร