สรุปเทคนิคการสัมภาษณ์ออนไลน์ด้วยเทคนิค 5C จากงาน Experience Work Day

November 01, 2021 Resume Writing & Interview​
สรุปเทคนิคการสัมภาษณ์ออนไลน์ด้วยเทคนิค 5C จากงาน Experience Work Day

ในช่วงโควิดที่งานหายากและต้องปรับตัวมาสัมภาษณ์งานผ่านทางออนไลน์จะทำอย่างไรให้เราสามารถสัมภาษณ์งานได้ดีและเพิ่มโอกาสได้งาน โดยเฉพาะเด็กจบใหม่ที่ยังขาดประสบการณ์ในการสมัครและสัมภาษณ์งาน ซึ่งวันนี้เรามีเคล็ดลับการสัมภาษณ์งานออนไลน์ด้วยเทคนิค 5C จากกิจกรรม WORKSHOP: สัมภาษณ์งานออนไลน์ 101 สูตรลับสัมภาษณ์งานที่ HR ไม่เคยบอก ของ Adecco มาฝากมือใหม่ที่ยังขาดประสบการณ์ในการสัมภาษณ์งานออนไลน์กันค่ะ

เรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามในการสัมภาษณ์งานออนไลน์

รู้หรือไม่?

39% ของผู้สมัครงานออนไลน์ตกสัมภาษณ์งานจากภาพลักษณ์ที่ดูไม่มั่นใจ คุณภาพเสียงในการสื่อสาร และขาดการยิ้มแย้ม


ที่มา: Harvard Business Review


ในการสัมภาษณ์งานออนไลน์นั้นสิ่งที่ผู้สมัครต้องให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ คือการนำเสนอตัวเองผ่านทางภาพและเสียงเพราะเป็นสิ่งที่ผู้สัมภาษณ์จะมองเห็นเราผ่านจากจอ เนื่องจากภาษากายและน้ำเสียงนั้นมีผลอย่างมากต่อการสื่อสาร โดยจากการศึกษาพบว่าภาษากายมีความสำคัญต่อประสิทธิภาพในการสื่อสารถึง 55% น้ำเสียงมีผล 38% ขณะที่คำพูดหรือการสื่อสารนั้นส่งผลเพียง 7 % จะเห็นได้ว่าหากเราไม่ให้ความสำคัญกับภาษากายและน้ำเสียงแล้วก็อาจทำให้เราพลาดโอกาสงานได้ไปอย่างน่าเสียดาย เราจึงควรให้ความสำคัญกับทั้งเรื่องภาพลักษณ์และโทนในการสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์ รวมไปถึงเตรียมเนื้อหาในการนำเสนอตัวเองและตอบสัมภาษณ์งาน เพื่อให้ทั้งสามปัจจัยช่วยกันส่งเสริมให้การสัมภาษณ์งานออนไลน์ออกมาดีที่สุด

การสัมภาษณ์ออนไลน์ด้วยเทคนิค 5C

ทีนี้เรามาดูกันค่ะว่ามีอะไรบ้างที่เราควรเตรียมตัวก่อนสัมภาษณ์งานออนไลน์เพื่อให้ผู้สมัครประทับใจและพิจารณาเราให้ร่วมงานกับองค์กร โดย Adecco สรุปมาให้เข้าใจง่ายกับเทคนิค 5 C ซึ่งได้แก่ Camera, Connection, Confidence, Communication และ Company Information



Camera – ภาพลักษณ์ที่นำเสนอผ่านกล้อง

ผู้สมัครต้องให้ความสำคัญกับการเลือกมุมกล้องที่เหมาะสม โดยให้เป็นมุมที่อยู่ในระดับสายตา ไม่วางกล้องในมุมเสยหรือมุมกดเพราะจะเป็นการสื่อสารภาษากายที่ไม่ดีและทำให้เสียบุคลิก ไม่ควรตั้งกล้องในระยะประชิดเกินไป ควรให้เห็นทั้งใบหน้าและตัวลำตัวช่วงบนเล็กน้อย ขณะสื่อสารควรมองตรงที่กล้องเป็นหลักเพื่อสร้าง eye contact กับผู้สัมภาษณ์ และควรหาที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอหรือซื้อไฟมาใช้เพื่อให้ผู้สัมภาษณ์สามารถมองเห็นเราได้อย่างชัดเจนและมีความใกล้เคียงกับการสัมภาษณ์งานแบบตัวต่อตัวที่บริษัท นอกจากนี้ควรเลือกฉากหลังให้เหมาะสมกับการสัมภาษณ์โดยเลือกเป็นสีพื้นหรือลายเรียบๆ เพื่อไม่ให้กวนสายตาผู้สัมภาษณ์ 

 

Connection – สัญญานการสื่อสาร

การสัมภาษณ์งานโดยที่สัญญาณขาดๆหายๆคงไม่สามารถสร้างความประทับใจให้ผู้สัมภาษณ์ได้แน่ๆ ผู้สมัครจึงต้องเตรียมพร้อมเรื่องสัญญานอินเทอร์เน็ตให้ดี เช็คสัญญานอินเทอร์เน็ตล่วงหน้า และมีแผนสำรองกรณีที่สัญญาณอินเทอร์เน็ตไม่ดี เช่น หากสัญญานไวไฟขัดข้องก็ต้องมีเน็ตมือถือสลับไว้ใช้สำรอง หรือเซฟเบอร์โทรศัพท์อีกฝ่ายไว้ล่วงหน้าเพื่อโทรหากรณีไม่สามารถติดต่อผ่านวิดีโอคอลล์ได้ รวมถึงเช็คเรื่องเสียงรบกวนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงพัดลมหรือเสียงจากในบริเวณบ้านโดยหาห้องที่เงียบเพื่อให้ไม่มีสิ่งใดมารบกวนหรือขัดจังหวะการสื่อสาร

 

Confidence - ความมั่นใจ

ผู้สัมภาษณ์งานย่อมมองหาผู้สมัครที่มีความมั่นใจว่าจะทำงานในตำแหน่งๆ นั้นได้ เพราะคงไม่มีใครจะมอบความไว้วางใจให้กับคนที่ยังกล้าๆ กลัวๆ ไม่แน่ใจว่าตัวเองจะทำได้ไหม ดังนั้นในการสัมภาษณ์ผู้สมัครต้องแสดงออกให้เห็นถึงความมั่นใจผ่านทั้งภาษากาย น้ำเสียง และคำพูด

  • ภาษากาย: สบตาผู้สัมภาษณ์โดยพยายามมองผ่านเลนส์กล้องบ่อยๆ ยิ้มให้ผู้สัมภาษณ์เพื่อแสดงทีท่าที่เป็นมิตร นั่งหลังตรง ไม่แสดงความกังวลออกทางสีหน้า แต่งกายไปสัมภาษณ์งานเสมือนไปสัมภาษณ์ที่ออฟฟิศจริงๆ
  • น้ำเสียง: ใช้น้ำเสียงที่เป็นมิตร พูดให้ชัดและฉะฉาน ไม่พูดเร็วหรือช้าเกินไป พยายามรักษาจังหวะการพูดให้ใกล้เคียงกับผู้สัมภาษณ์


Communication - การสื่อสาร

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าผู้สมัครต้องให้ความสำคัญกับทั้งภาษากาย น้ำเสียง และคำพูดสำหรับคำพูดนั้นควรเลือกใช้คำให้เหมาะสม และทรงพลังเพื่อที่จะสื่อสารให้ผู้สัมภาษณ์เห็นถึงแพสชั่นในการทำงาน และความสามารถของเราได้ชัดที่สุด เวลาตอบคำถามสัมภาษณ์งานผู้สมัครไม่ควรตอบคำถามเพียงสั้นๆ ว่า ใช่/ไม่ใช่ แต่ให้พยายามอธิบายเพื่อให้ผู้สัมภาษณ์เข้าใจถึงสถานการณ์และเหตุผลที่เรายกมาสนับสนุนคำตอบ และพยายามหาจุดที่จะนำเสนอทักษะเด่นๆ ของเราออกมา ซึ่งผู้สมัครควรวิเคราะห์มาก่อนล่วงหน้าว่างานในตำแหน่งนี้และองค์กรนี้ต้องการคนที่มีคุณสมบัติอย่างไร และเรามีจุดเด่นหรือทักษะอะไรที่สอดคล้องกับตำแหน่งงานที่สมัครเพื่อนำมาสร้างจุดขายให้ตัวเองให้โดดเด่นจากผู้สมัครคนอื่นๆ  


Company Information - ข้อมูลองค์กรที่สมัคร

การเตรียมหาข้อมูลองค์กรที่เราจะไปสัมภาษณ์มาล่วงหน้าเป็นการแสดงให้ผู้สัมภาษณ์รับรู้ถึงความใส่ใจและความต้องการที่อยากจะทำงานร่วมกับองค์กร นอกจากนี้ข้อมูลที่ได้ยังช่วยให้เรารู้จักองค์กรมากขึ้นและสามารถวิเคราะห์ความต้องการขององค์กรเพื่อนำมาวางกลยุทธ์ในการแนะนำตัวและสัมภาษณ์งานได้ ผู้สมัครจึงควรพยายามหาข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์องค์กร หรือค้นดูจากข่าวต่างๆในอินเทอร์เน็ต ทำความเข้าใจธรรมชาติของธุรกิจและอุตสาหกรรมขององค์กรนั้นๆ หรือลองทำการบ้านล่วงหน้าว่าถ้าเราได้มีโอกาสไปเป็นพนักงานที่นั่นเราจะเข้าไปพัฒนาหรือช่วยเหลือองค์กรอย่างไร ก็จะช่วยให้เรามีแต้มต่อมากขึ้นในการสัมภาษณ์งานได้ค่ะ


เทคนิคการสัมภาษณ์งานออนไลน์อื่นๆที่น่าสนใจ

  • สิ่งสำคัญในการสัมภาษณ์งานคือ Active Listening หรือ การตั้งใจฟังว่าผู้สัมภาษณ์มีเจตนาต้องการทราบอะไรจากคำถามที่ตั้งมาเพื่อตอบคำถามให้ตรงโจทย์ที่สุด
  • หากเป็นเด็กจบใหม่ไม่มีประสบการณ์ อาจเล่าถึงกิจกรรมที่เคยทำระหว่างเรียน การเข้าร่วมโครงการต่างๆ การทำงานกลุ่ม การออกค่าย การทำงานพาร์ทไทม์ การรับเป็นติวเตอร์ หรือการทำกิจกรรมตามความสนใจของเรา เช่น การทำคลิปลงยูทูป จัดคลับเฮาส์ การทำการทดลองหรือเรียนรู้ด้วยตัวเองเหล่านี้ก็สามารถนำมาเล่าได้ว่าเราเคยทำอะไร ใช้ทักษะอะไรในการทำงานและแก้ปัญหาบ้าง โดยเลือกนำเสนอในมุมที่สอดคล้องกับตำแหน่งงานที่สมัคร