อัปเดต 5 เทรนด์การทำงานทั่วโลกที่จะเกิดขึ้นในปี 2023 ที่ HR และผู้นำองค์กรไม่ควรพลาด
1. ปีของเด็กจบใหม่ - ผลสำรวจพบว่าธุรกิจหลายแห่งวางแผนเพิ่มอัตราการจ้างงานเด็กจบใหม่ขึ้น 15% จากเดิม ทำให้เด็กมหาวิทยาลัยที่จะเรียนจบในปี 2023 นี้ มีแนวโน้มจะหางานได้ง่ายกว่าเด็กจบใหม่ในปี 2020 และ 2021 อย่างไรก็ตามพบว่าตลาดงานยังคงขาดแคลนทาเลนต์หรือคนเก่งระดับท็อปต่อเนื่องอีกปี ดังนั้นเพื่อให้คนเหล่านี้ยังอยู่กับองค์กร สิ่งสำคัญในปีนี้จึงยังคงเป็นการวางกลยุทธ์เพื่อดูแลรักษาพนักงาน
2. อัปสกิลให้ผู้นำเพื่อดูแลลูกน้องได้ดีขึ้น - การอัปสกิลด้าน leadership ให้พนักงานระดับหัวหน้า ตั้งแต่ manager ไปจนถึง C-Level เป็นสิ่งสำคัญมากยิ่งขึ้น เพราะปัจจุบันพนักงานต่างต้องการให้หัวหน้ารับฟังเสียงของพวกเขาและต้องการเห็นเป้าหมายในการทำงานที่ชัดเจน หัวหน้าที่ดีจึงเป็นส่วนสำคัญในการดูแลรักษาพนักงานให้อยู่กับองค์กร ทักษะที่น่าพัฒนา เช่น ทักษะการสื่อสาร การจัดการความขัดแย้ง การคิดเชิงกลยุทธ์ และการยอมรับ diversity and inclusion
3. ใช้ Internal mobility ให้เกิดประโยชน์ - ผลสำรวจพบว่าความไม่ก้าวหน้าในอาชีพเป็นเหตุผลอันดับสามที่ทำให้คนตัดสินใจย้ายงานภายในหนึ่งปี ซึ่ง Internal mobility หรือความยืดหยุ่นในการโยกย้ายตําแหน่งงานหรือสถานที่ทำงานภายในบริษัท ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการเติบโตของพนักงานซึ่งหลายองค์กรอาจลืม ความยืดหยุ่นนี้ดีต่อทั้งต่อองค์กรและพนักงาน คือทำให้งานมีความต่อเนื่อง และพนักงานได้รับโอกาสค้นพบศักยภาพใหม่ ๆ ในตัวเองผ่านงานที่อยากทำ
4. ให้ความสำคัญกับฝ่าย HR และ CHRO - จากที่กล่าวมาว่าการดูแลรักษาทาเลนต์ให้อยู่กับองค์กรคือหัวใจสำคัญของปีนี้ CHRO หรือ Chief Human Resource Officer และฝ่าย HR จึงมีความสำคัญกับองค์กรมากขึ้น โดยต้องคอยอยู่ใกล้ชิดกับพนักงานให้รู้เท่าทันความต้องการและตอบสนองอย่างถูกต้อง งานวิจัยยังพบอีกว่า CHRO เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับองค์กรที่กำลังหาคนมาทำตำแหน่ง CEO เพราะพวกเขามีทักษะที่เกี่ยวข้องกับคน โครงสร้างองค์กร และวัฒนธรรมองค์กร
5. ใส่ใจในทุกขั้นตอนของ Employment journey - สร้างการใส่ใจตลอดกระบวนการ ตั้งแต่การคัดเลือกที่ปราศจากอคติ onboarding ที่มีคุณภาพ การพัฒนาออฟฟิศให้น่าอยู่ อัปสกิลให้พนักงานที่รู้สึกขาดทักษะแทนการหาคนใหม่มาแทน ไปจนถึงการจัดงาน farewell ก่อนลาออก สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้พนักงานเกิดความประทับใจและอาจช่วยสร้างชื่อเสียงให้องค์กรได้ในยุคที่คนชอบแชร์เรื่องราวต่าง ๆ บนโซเชียลมีเดีย
อ้างอิง:
