ข้อควรรู้ในการจ้างพนักงานเสริมช่วง High Season

ตุลาคม 03, 2566 ความรู้เชิงลึกด้านทรัพยากรบุคคล
ข้อควรรู้ในการจ้างพนักงานเสริมช่วง High Season

ช่วงปลายปีที่คนมักจะเดินทางท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอย หรือที่เราเรียกกันว่าช่วง high season ถือเป็นช่วงที่หลายธุรกิจต่างเฝ้ารอ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร รวมไปถึงธุรกิจค้าปลีก แต่ในอีกมุมหนึ่ง การมีลูกค้ามากขึ้นยังหมายถึงความท้าทายของเจ้าของธุรกิจในการเตรียมรับมือ โดยเฉพาะการคงคุณภาพของสินค้าหรือการให้บริการให้ดีเช่นเดิม การจ้างพนักงานเสริมในช่วง high season ให้มีกำลังคนเพียงพอจึงเป็นทางออกหนึ่งที่จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้

ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนจ้างงาน

  1. คาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยว หรือจำนวนลูกค้าจากข้อมูลทางธุรกิจของตัวเอง โดยเปรียบข้อมูลตลอดทั้งปีของปีที่แล้วกับปีนี้ เพื่อดูว่าแนวโน้มลูกค้าในปีนี้น่าจะเพิ่มขึ้นหรือลดลง รวมถึงดูข้อมูลการเพิ่มขึ้นของลูกค้าในแต่ละสัปดาห์ของปีที่ผ่านมา เพื่อคาดคะเนว่าช่วงเวลาไหนจะเรียกได้ว่าเป็น high season และ peak season ของธุรกิจของคุณ
  2. คาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวจากภาพรวมการท่องเที่ยวของประเทศ ผ่านการติดตามแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ
  3. เช็คจำนวนพนักงานที่มีในปัจจุบันในแต่ละหน้าที่และแต่ละกะ เพื่อดูว่าส่วนไหนมีโอกาสที่คนจะไม่เพียงพอมากที่สุด ควบคู่ไปกับการเช็คว่ามีทักษะอะไรบ้างที่จำเป็นในการทำงาน หรือทักษะอะไรที่ต้องการคนมาช่วยเติมเต็ม เพื่อให้คุณมีเป้าหมายในการหาคนที่ชัดเจน
  4. คำนวณค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการจ้างงาน

 

สถิติโดยสมาคมโรงแรมไทย (THA) ที่ได้สำรวจความคิดเห็นผู้ประกอบการโรงแรม 96 แห่ง ในเดือนกันยายน 2565 พบว่า ธุรกิจโรงแรม 77% เผชิญปัญหาขาดแคลนแรงงาน โดยเฉพาะพนักงานระดับปฏิบัติการ เช่น พนักงานเสิร์ฟ พนักงานทำความสะอาด รองลงมาคือพนักงานระดับหัวหน้างาน

ขั้นตอนการจ้างงาน

  1. หาคนให้ถูกช่องทาง เช่น หากต้องการคนในพื้นที่ ก็อาจใช้วิธีติดประกาศหรือติดต่อลงโฆษณาตามเพจ Facebook ที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดนั้น ๆ หรือจังหวัดใกล้เคียง
  2. พูดคุยกับพนักงานประจำของคุณให้ช่วยแนะนำเพื่อนมาสมัครงาน
  3. สัมภาษณ์แบบ walk-in interview เปิดโอกาสให้ทุกคนที่สนใจเข้ามาสัมภาษณ์ได้เลยในวันและเวลาที่กำหนด โดยรายละเอียดที่นายจ้างต้องเตรียมให้พร้อม เช่น เงื่อนไขการจ้างงาน ค่าแรง สวัสดิการ เป็นต้น
  4. หากคุณต้องการใช้เวลาโฟกัสกับงานในส่วนอื่น คุณอาจติดต่อบริษัทจัดหางานที่มีฐานข้อมูลของคนที่พร้อมทำงานจำนวนมาก บริษัทเหล่านี้จะมีความเชี่ยวชาญในการสรรหาพนักงานที่มีทักษะเฉพาะทาง ในหลากหลายตำแน่งงาน ซึ่งจะช่วยให้การจ้างงานมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และทันต่อความต้องการของธุรกิจ

ขั้นตอนเตรียมความพร้อมหลังจากได้พนักงานแล้ว

  1. ปฐมนิเทศพนักงาน เช่น พาพนักงานเดินทัวร์สถานที่ทำงาน อธิบายสินค้าและบริการของบริษัทให้ฟัง และแนะนำพนักงานให้รู้จักกับทีม ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพนักงานใหม่และพนักงานเก่าถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะจะมีผลต่อความสุขในการทำงานและผลลัพธ์ของงาน
  2. สอนงาน คุณอาจจะสอนงานพนักงานเอง หรือกำหนดคนที่ไว้ใจได้ให้ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้กับพนักงานใหม่ เคล็ดลับคือเริ่มต้นด้วยการให้งานง่าย ๆ ให้พวกเขาทำแล้วสำเร็จเพื่อให้เกิดความมั่นใจ แล้วค่อยขยับไปหางานที่ท้าทายมากขึ้น
  3. ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน และบอกเป้าหมายที่คุณต้องการให้พนักงานเข้าใจ หากพนักงานเสริมคนไหนมีฝีมือดี ทำงานได้ตามเป้าหมายหรือเกินกว่านั้น คุณอาจพิจารณาทาบทามให้พวกเขามาเป็นพนักงานประจำได้

ข้อควรรู้เรื่องกฎหมายแรงงาน

โดยปกติแล้วนายจ้างมักเลือกจ้างงานพนักงานเสริมในช่วง high season ในรูปแบบการจ้างงานรายวันหรือสัญญาจ้างระยะสั้น ซึ่งมีข้อกฎหมายที่คุณควรรู้ ดังนี้

  1. การจ้างงานรายวัน นายจ้างไม่สามารถสั่งให้ลูกจ้างให้หยุดงานและไม่จ่ายเงินตามแต่จะมีงาน เพราะถือว่าลูกจ้างพร้อมทำงานแต่นายจ้างไม่มีงานให้ นายจ้างยังต้องจ่ายค่าจ้างในวันหยุดนั้น ๆ ข้อตกลงดังนี้ขัดต่อกฎหมายคุ้มครองแรงงานและมีผลเป็นโมฆะ เพราะถึงแม้จะเป็นลูกจ้างรายวันก็ต้องมีงานให้ทำตลอด เว้นแต่วันหยุดประจำสัปดาห์ถึงไม่ต้องจ่ายค่าจ้าง ซึ่งลูกจ้างรายวัน มีสิทธิได้รับวันหยุดประจำสัปดาห์ไม่น้อยกว่า 1 วัน วันหยุดตามประเพณีไม่น้อยกว่าปีละ 13 วัน
  2. งานร้านอาหารและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวถือเป็นอุตสาหกรรมที่แปรผันตามฤดูกาล การจ้างพนักงานบางกลุ่มเพื่อมารองรับนักท่องเที่ยวในช่วง high season เท่านั้น จึงเข้าข่ายข้อยกเว้นตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 มาตรา 118 วรรคสามและวรรคสี่ นั่นคือ หากมีการตกลงระยะเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดของงานไว้อย่างแน่นอนซึ่งไม่เกิน 2 ปี นายจ้างไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินชดเชยเมื่อครบสัญญาจ้าง แม้ว่าจะทำงานเกิน 120 วันก็ตาม ยกเว้น 1) นายจ้างเลิกจ้างก่อนวันครบสัญญา ถึงแม้ว่าจะบอกล่วงหน้าไม่น้อยกว่าหนึ่งรอบการจ่ายค่าจ้างก็ตาม และ 2) มีการเขียนสัญญาจ้างที่ทำลายความแน่นอนของสัญญา เช่น ให้สิทธินายจ้างและลูกจ้างสามารถบอกเลิกสัญญาจ้างเมื่อใดก็ได้ เป็นต้น เมื่อครบกำหนดสัญญาหรือเลิกจ้างนายต้องจ่ายค่าชดเชย

ข้อควรคำนึง

  1. เริ่มต้นแต่เนิ่น ๆ อย่างน้อยล่วงหน้า 2 เดือน เพื่อให้คุณมีเวลาเพียงพอในการสรรหาพนักงานและสอนงานอย่างมีคุณภาพ
  2. ในการคัดเลือกพนักงานบริการ อาจจะดีกว่าหากคุณให้ความสำคัญกับบุคลิกภาพ ความมีใจรักการบริการและมีทักษะการสื่อสารที่ดี มากกว่าประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา เพราะประสบการณ์เป็นสิ่งที่สามารถสั่งสมเพิ่มเติมและเรียนรู้ได้ แต่การมีใจรักการบริการเป็นเรื่องของ mindset ซึ่งค่อนข้างปรับเปลี่ยนได้ยาก
  3. ดูแลพนักงานชั่วคราวให้ดีไม่ต่างจากพนักงานประจำ เช่น ไม่แบ่งแยกชนชั้น ชื่นชมและมองเห็นคุณค่าในตัวพนักงาน เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะทำให้พนักงานรู้สึกดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งกับบริษัทแล้ว ชื่อเสียงที่ดีในการดูแลพนักงาน จะทำให้ใคร ๆ ก็จะอยากมาร่วมกับบริษัทของคุณในอนาคต

 

หวังว่าข้อควรรู้เหล่านี้จะช่วยธุรกิจของคุณมีความพร้อมเต็มที่ในด้านการบริหารจัดการกำลังคนที่จะรองรับผู้ใช้บริการจำนวนมาก ในช่วง high season ที่จะถึงนี้

หากคุณต้องการมืออาชีพในการจัดหาจัดจ้างพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญในสายงานบริการ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจร้านอาหาร โรงแรม สปา หรือสถานที่ท่องเที่ยว ครอบคลุมทุกตำแหน่งงานตั้งแต่ระดับพนักงานระดับบริหาร พนักงานต้อนรับ พนักงาน back office พนักงานในครัว และอื่น ๆ บริการ Hospitality Staffing ของอเด็คโก้ พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการของธุรกิจของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่

อ้างอิง:

https://www.zoho.com/inventory/guides/seasonal-hiring.html

https://www.aihr.com/hr-glossary/seasonal-employment

https://www.hrcenter.co.th/file/columns/hr_f_20230405_085553.pdf

https://www.mkclegal.com/ลูกจ้างรายวัน-2/

https://workpointtoday.com/tourism-industry/