เรซูเม่ถือเป็นด่านแรกในการแนะนำตัวผู้สมัคร ผู้สมัครจึงควรให้ความสำคัญอย่างมากในการเขียนเรซูเม่แต่ละครั้ง โดยควรเขียนอย่างมืออาชีพ สร้างจุดขายที่ทำให้โดดเด่นกว่าผู้สมัครคนอื่น ๆ และอัพเดทเรซูเม่ทุกครั้งที่สมัครงานเพื่อปรับให้เหมาะสมกับตำแหน่งงานและบริษัทที่สมัครไป เพื่อเพิ่มโอกาสในการพิจารณาเรียกสัมภาษณ์งานของบริษัท
เรซูเม่คือการโฆษณา
เพราะเรซูเม่คือเอกสารที่เราใช้โฆษณาว่าทำไมบริษัทจึงควรจ้างเรา ดังนั้นการเขียนแต่ละบรรทัดจึงควรให้แน่ใจว่าจุดขายของคุณจะถูกพรีเซนต์ออกมาให้บริษัทเห็น มากกว่าการเขียนแบบมาตรฐานที่ใครๆ ก็ใช้กัน โดยสิ่งสำคัญที่ผู้สมัครควรคำนึงถึงมี ดังนี้
6 เทคนิคที่จะทำให้เรซูเม่ของคุณโดดเด่นกว่าใคร
- ให้ความสำคัญกับพื้นที่โฆษณา
พื้นที่ 1/3 ด้านบนของเรซูเม่ คือสิ่งที่บริษัทสแกนว่าควรจะอ่านต่อหรือโยนทิ้งลงกองเอกสาร ดังนั้นผู้สมัครควรนำจุดที่เป็นไฮไลต์ขึ้นมาอยู่ด้านบน คุณอาจต้องวิเคราะห์ว่าอะไรคือจุดไฮไลต์ของคุณ สำหรับบางคนอาจเป็นมหาวิทยาลัยที่จบมาและผลการศึกษา สำหรับบางคนอาจเป็นประสบการณ์ บางคนอาจใส่ลิงก์ไปยังพอร์ตฟอลิโอ บางคนอาจใช้การบรรยายเป้าหมายทางด้านอาชีพก็เป็นได้ และที่สำคัญหากต้องการใส่ภาพถ่ายของตนเองลงในเรซูเม่ ควรเป็นภาพถ่ายสุภาพ หน้าตรง งดการใช้ภาพ Selfie - เล่าประสบการณ์ ผ่านความสำเร็จ
ไม่มีอะไรที่จะยืนยันความสามารถของคุณ ได้เท่าผลงานของคุณ ดังนั้นในส่วนการเล่าประสบการณ์ คุณควรพรีเซนต์ให้ได้ว่าคุณได้สร้างผลงานอะไรให้องค์กรบ้าง เช่น หากคุณเป็นเซลล์แทนที่คุณจะเขียนว่าหน้าที่งานขายของคุณมีอะไรบ้าง คุณควรเขียนบรรยายเพิ่มเติมว่าคุณสามารถทำยอดได้เท่าไร และมีหน้าที่รับผิดชอบโปรเจคท์สำคัญอะไรบ้างมากกว่า - บอกทักษะที่คุณมีให้หมด
ส่วนใหญ่ในเรซูเม่ เรามักใส่ทักษะ โปรแกรมที่ใช้ได้ กับคะแนนความสามารถด้านภาษา ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนต่างก็มีทักษะเหล่านี้ไม่ต่างจากคุณ คุณอาจลองวิเคราะห์ดูว่ามีคุณมีทักษะอย่างอื่นเพิ่มเติมไหม ที่เป็นทักษะที่โดดเด่น และมีความสำคัญต่องานของคุณ เช่น ทักษะการเจรจาต่อรอง (Negotiation Skill) ทักษะการเข้าสังคมและทำงานร่วมกับผู้อื่น (Interpersonal Skill) ทักษะความเป็นผู้นำ (Leadership Skill) อย่างไรก็ตามการจะเขียนสิ่งใดลงไปคุณต้องแน่ใจว่าเป็นความจริง มีผลงานยืนยันหรือมีข้อพิสูจน์ได้ - แสดงออกถึง Passion ของคุณ
มากไปกว่าความสามารถและทักษะ บริษัทเองก็ต้องการมองหาคนที่มีแรงจูงใจและค่านิยมสอดคล้องกับองค์กร เพื่อหาคนที่ใช่ที่สุดสำหรับองค์กร ในจุดนี้การเขียน Career Goal หรือเป้าหมายด้านอาชีพจึงอาจเป็นจุดสำคัญที่ใช้มัดใจ HR ในการเรียกคุณมาสัมภาษณ์งาน หากคุณสามารถวิเคราะห์ได้ว่าบริษัทมีค่าวิสัยทัศน์แบบไหนและต้องการพนักงานแบบไหน ก็มีโอกาสสูงที่เรซูเม่ของคุณจะถูกส่งไปพิจารณาในขั้นตอนต่อๆ ไป
- เลือกใช้ภาษาที่ถูกต้อง อ่านแล้วไม่น่าเบื่อ
แน่นอนว่าเรซูเม่ที่ดีนั้นควรทำเป็นภาษาอังกฤษ นอกจากหลักไวยากรณ์ที่ต้องถูกต้องสมบูรณ์เพื่อแสดงความเป็นมืออาชีพแล้ว การเลือกใช้คำก็เป็นอีกสิ่งที่จำเป็นเช่นกัน คุณอาจลองใช้ Action Verb เพื่อสื่อสารศักยภาพของคุณให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น ในสายงานการบริหาร คุณอาจเปลี่ยนจากการใช้คำ “Oversaw” ที่สื่อถึงการดูงานในภาพใหญ่เพียงอย่างเดียว โดยใช้คำว่า “Established” ซึ่งสื่อถึงการริเริ่มและลงมือทำด้วย เป็นต้น นอกจากนี้การใช้ศัพท์ในสายงานของคุณและเลือกใช้ adj. ที่เหมาะสมก็มีส่วนช่วยให้เรซูเม่ของคุณดูโดดเด่นด้วยเช่นกัน โดยสามารถดูคำศัพท์ Action verb เพิ่มเติมได้ที่นี่
- ใช้รูปแบบเทมเพลตเรซูเม่แบบปกติ
ปัจจุบันหลาย ๆ องค์กรใหญ่ได้เลือกใช้ระบบอัตโนมัติในการคัดกรองเรซูเม่ที่ผู้สมัครส่งเข้ามาจำนวนมาก ส่งผลให้เรซูเม่แบบ Infographics หรือเรซูเม่ที่มีการดีไซน์ผ่านโปรแกรม Photoshop, Illustrator หรือเว็บไซต์ต่างๆ ที่มักอยู่ในรูปแบบไฟล์ภาพ ไม่ว่าจะเป็น JPG หรือ PDF ไฟล์เรซูเม่เหล่านี้จะถูกคัดกรองออกไปเนื่องจากระบบไม่สามารถอ่านข้อมูลจากไฟล์ภาพได้ ดังนั้นเพื่อให้มั่นใจว่าเรซูเม่ของเราจะถึงมือ HR ทางที่ดีควรทำเรซูเม่ผ่านโปรแกรม Microsoft word แล้วเซฟเป็นไฟล์สกุล docx. หรือ PDF จะเป็นผลดีต่อผู้สมัครมากที่สุด
Reference: http://time.com/money/5053350/resume-tips-free-template/
https://edubirdie.com/blog/action-verbs-for-resume
เพิ่มโอกาสการสมัครงานของคุณผ่านอเด็คโก้ ฝากประวัติฟรีที่ adecco.co.th พร้อมรับคำแนะนำจากทีมงานมืออาชีพ และโอกาสมากมายจากบริษัทชั้นนำที่เราคัดสรรมาให้คุณ