ทุกวันนี้ เทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของทุกคน ไม่ว่าจะในส่วนของชีวิตการทำงาน ชีวิตส่วนตัว ไม่เว้นแม้แต่เรื่องของหัวใจ ความรักและความสัมพันธ์ในปัจจุบัน ได้เปลี่ยนแปลงไปตามบริบทของสังคมและคนยุคใหม่ โดยมีแอปหาคู่เข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญ ที่ผลักดันให้ความสัมพันธ์เริ่มต้นได้เร็วขึ้น พร้อมทำความรู้จักกับคนได้หลากหลายขึ้น และเมื่อมีตัวเลือกมากขึ้น คนหนุ่มสาวจึงหันไปหาความสัมพันธ์ที่ไม่ผูกมัดซึ่งนิยามโดยศัพท์สแลง เช่น casual date, friends with benefits และ situationship
ในช่วงเทศกาลแห่งความรักนี้ เราขอฉลองวันวาเลนไทน์ด้วยการพาไปสำรวจความสัมพันธ์รูปแบบใหม่นี้ รวมทั้งผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เมื่อคนทำงานเข้าสู่โหมด ‘ความรักที่ไม่ใช่แฟน’ รวมทั้งวิธีการรับมือกับความสัมพันธ์แบบ situationship ในที่ทำงาน โดยไม่ให้เสียงาน
แม้ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานคนพิเศษจะช่วยลดความเครียดและเพิ่มความสุขในการทำงานมากขึ้น แต่การมี situationship ในออฟฟิศก็มีข้อเสียตามมาด้วย รู้หรือไม่ว่าพนักงานกว่า 40% ไม่ทราบถึงข้อปฏิบัติเกี่ยวกับการมีความรักในที่ทำงานของบริษัทตัวเอง และความสัมพันธ์เกินเพื่อนในที่ทำงานอาจละเมิดข้อปฏิบัติขององค์กรหลายแห่งได้ [4] นอกจากนั้นยังมีอีกหลายประเด็นที่ทำให้ Situationship เป็นเรื่องที่ต้องระวัง หากคิดจะมีความสัมพันธ์แบบนี้ในที่ทำงาน
การมี situationship อาจทำให้พนักงานไม่สนใจงาน และหันไปโฟกัสกับหัวใจที่ว้าวุ่นแทน สุดท้ายแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือประสิทธิภาพงานที่ลดลง
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะปิดความสัมพันธ์เป็นความลับ หากมีเพื่อนร่วมงานรู้เข้า ก็อาจเกิดการติฉินนินทาและสร้างความอึดอัดในที่ทำงานได้
และหากว่าความสัมพันธ์แบบ situationship จบไม่สวย ก็จะทำให้บรรยากาศการทำงานเป็นไปอย่างอึดอัดและไม่มีความสุข หรืออาจจะถึงขั้นฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด หรือทั้งสองฝ่ายต้องลาออกจากงานไปในที่สุด
/////////////////////////////////////////
ในช่วงเทศกาลแห่งความรักนี้ เราขอฉลองวันวาเลนไทน์ด้วยการพาไปสำรวจความสัมพันธ์รูปแบบใหม่นี้ รวมทั้งผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เมื่อคนทำงานเข้าสู่โหมด ‘ความรักที่ไม่ใช่แฟน’ รวมทั้งวิธีการรับมือกับความสัมพันธ์แบบ situationship ในที่ทำงาน โดยไม่ให้เสียงาน
Situationship คืออะไร
Situationship คือคำศัพท์ใหม่ที่ใช้นิยามความสัมพันธ์ที่เกินกว่าเพื่อนแต่ไม่ถึงขั้นเป็นแฟนกัน โดยความสัมพันธ์รูปแบบนี้อาจเกิดขึ้นในช่วงคบหาดูใจซึ่งเป็นระยะชั่วคราว หรืออาจจะเป็นความสัมพันธ์ที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันในระยาวก็ได้ นอกจากนั้น situationship ยังเป็นความสัมพันธ์ที่นิยมในหมู่คนรุ่นใหม่ที่มองหาความสัมพันธ์ผ่านแอปหาคู่เป็นหลักอย่าง Gen Z หรือแม้กระทั่งชาว Millennial หรือ Gen Y โดยที่ Gen Z เป็นคนกลุ่มใหญ่ที่นิยมความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัดมากที่สุด [2]ความสัมพันธ์รูปแบบใหม่ในที่ทำงาน
ในปัจจุบัน ความรักระหว่างชาวออฟฟิศเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไป โดยพนักงานในสหรัฐอเมริกากว่า 33 เปอร์เซ็นต์ เผยว่าเคย หรือกำลังมีความสัมพันธ์แบบโรแมนติกในที่ทำงาน ขณะที่อีก 50 เปอร์เซ็นต์ ยอมรับว่าเคยแอบชอบเพื่อนรวมงาน [3]แม้ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานคนพิเศษจะช่วยลดความเครียดและเพิ่มความสุขในการทำงานมากขึ้น แต่การมี situationship ในออฟฟิศก็มีข้อเสียตามมาด้วย รู้หรือไม่ว่าพนักงานกว่า 40% ไม่ทราบถึงข้อปฏิบัติเกี่ยวกับการมีความรักในที่ทำงานของบริษัทตัวเอง และความสัมพันธ์เกินเพื่อนในที่ทำงานอาจละเมิดข้อปฏิบัติขององค์กรหลายแห่งได้ [4] นอกจากนั้นยังมีอีกหลายประเด็นที่ทำให้ Situationship เป็นเรื่องที่ต้องระวัง หากคิดจะมีความสัมพันธ์แบบนี้ในที่ทำงาน
การมี situationship อาจทำให้พนักงานไม่สนใจงาน และหันไปโฟกัสกับหัวใจที่ว้าวุ่นแทน สุดท้ายแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือประสิทธิภาพงานที่ลดลง
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะปิดความสัมพันธ์เป็นความลับ หากมีเพื่อนร่วมงานรู้เข้า ก็อาจเกิดการติฉินนินทาและสร้างความอึดอัดในที่ทำงานได้
และหากว่าความสัมพันธ์แบบ situationship จบไม่สวย ก็จะทำให้บรรยากาศการทำงานเป็นไปอย่างอึดอัดและไม่มีความสุข หรืออาจจะถึงขั้นฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด หรือทั้งสองฝ่ายต้องลาออกจากงานไปในที่สุด
4 วิธีรับมือ Situationship ไม่ให้เสียงาน
การมี situationship กับเพื่อนร่วมงานคือดาบสองคม แม้จะช่วยเติมความสดใสให้กับหัวใจ แต่ก็อาจจะมีเรื่องปวดหัวตามมาจนเสียงาน ดังนั้น ควรป้องกันไว้ดีกว่าแก้ แต่หากว่าได้เริ่มต้นความสัมพันธ์ situationship กับเพื่อนร่วมงานไปแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องทำคือรักษาสมดุลระหว่างความรักกับหน้าที่การงานและความเป็นมืออาชีพในองค์กร ถ้าไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มยังไง เรามีเคล็ดลับมาฝาก1. วางขอบเขตให้ชัดเจน
- วาดเส้นให้ชัดเจนว่าอะไรควรทำและไม่ควรทำระหว่างอยู่ในที่ทำงาน
- ในเวลาทำงาน ควรติดต่อกัน เฉพาะเรื่องงานเท่านั้น เพื่อรักษาความเป็นมืออาชีพ
- คุยกับเพื่อนร่วมงานคนพิเศษให้เข้าใจตรงกัน และทำตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัด
2. ตั้งใจทำงาน
- ให้ความสำคัญกับงานและความรับผิดชอบของตัวเองเป็นหลัก
- หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ไขว้เขว สนทนาและเข้าหาเพื่อนร่วมงานคนพิเศษให้น้อยที่สุด
3. ให้พื้นที่กันและกัน และเคารพความเป็นส่วนตัว
- แยกชีวิตรักออกจากชีวิตการทำงาน และหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงเพื่อนคนพิเศษกับเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ
- หากเกิดความขัดแย้งกัน ควรจัดการกับปัญหานอกเวลางาน ไม่ให้กระทบกับการทำงาน
4. เตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาที่จะตามมา
- ไม่ว่าความสัมพันธ์แบบ situationship จะออกหัวหรือก้อย ก็ต้องวางแผนรับมือกับทุกผลลัพธ์ ให้คุยกับเพื่อนคนพิเศษถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหา หรือความวุ่นวายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น และตกลงร่วมกันว่าจะจัดการกับปัญหาอย่างไร หากความสัมพันธ์จบลง
ปิดท้าย
situationship เป็นภาพสะท้อนของความเปลี่ยนแปลงของบริบททางสังคมและเทคโนโลยีที่เข้ามามีส่วนสำคัญในชีวิตมากขึ้น และเนื่องจากความสัมพันธ์รูปแบบใหม่นี้ไม่มีข้อผูกมัด คน gen ใหม่จึงเลือกที่จะเข้าสู่ความสัมพันธ์ในรูปแบบนี้มากขึ้น แม้ situationship ในที่ทำงานจะช่วยให้ใจฟูและมีความสุขกับงานมากขึ้น แต่ก็อาจสร้างปัญหาและทำให้ชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงานวุ่นวายได้ในระยะยาว ดังนั้น ความสัมพันธ์แบบ situationship ในที่ทำงานจึงเป็นสิ่งที่ควรระมัดระวังให้มาก แต่หากว่าได้เริ่มต้นความสัมพันธ์ไปแล้ว ก็ควรรักษาสมดุลระหว่างความรักกับการทำงานให้เคร่งครัด เพื่อไม่ให้เป็นการเสียงาน และไม่สร้างความอึดอัดใจให้กับเพื่อนร่วมงาน/////////////////////////////////////////
Ref
- https://www.womenshealthmag.com/relationships/a27478820/situationship/
- https://www.linkedin.com/pulse/how-many-gen-z-millennials-have-really-been-situationship-ypulse/
- https://www.forbes.com/sites/jackkelly/2022/02/14/study-finds-romance-blossoming-in-the-office-with-50-having-a-crush-on-a-co-worker-and-33-involved-with-a-workplace-romance/
- https://www.forbes.com/sites/kimelsesser/2019/02/14/these-6-surprising-office-romance-stats-should-be-a-wake-up-call-to-organizations/