หลายคนอาจสงสัยว่าเขียนเรซูเม่แบบไหนถึงจะเพิ่มโอกาสได้งาน ทำอย่างไรเรซูเม่ของเราถึงจะดูน่าสนใจในสายตา HR มากขึ้น Adecco ได้สรุป 7 ทริคในการทำเรซูเม่ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน อ่านข้อแนะนำจากเราได้ในบทความนี้เลย
- องค์กรใหญ่มักใช้ AI ตรวจเรซูเม่ ควรเซฟไฟล์เป็น .docx หรือ pdf เท่านั้น
ปัจจุบันหลายองค์กรใหญ่ได้นำเทคโนโลยี AI มาช่วยตรวจคัดกรองเรซูเม่ซึ่งมีจำนวนมาก ดังนั้นเรซูเม่ที่ส่งไปจึงควรอยู่ใน format ที่ AI จะสามารถอ่านได้ เราจึงอยากแนะนำให้ผู้สมัครทำเรซูเม่โดยใช้ Microsoft word หรือโปรแกรมที่เหมาะสำหรับการพิมพ์งาน และเซฟไฟล์ในสกุล .docx หรือ pdf เท่านั้นเพื่อที่ AI จะสามารถอ่านไฟล์ของเราได้ หากเซฟเป็นไฟล์สกุลอื่นเรซูเม่ของคุณก็อาจถูกคัดทิ้ง พลาดโอกาสในการสมัครงานไปอย่างน่าเสียดาย
- HR ชอบเรซูเม่เรียบๆ อ่านง่าย ไม่ต้องดีไซน์มาก ยกเว้นสมัครงานสายออกแบบ
ในแต่ละวัน HR ต้องอ่านเรซูเม่จำนวนมาก ดังนั้นเรซูเม่ที่ดีคือเรซูเม่ที่อ่านง่าย สบายตาและมีเนื้อหาครบถ้วน การทำเรซูเม่ผู้สมัครไม่จำเป็นต้องเสียเวลาในการออกแบบให้สวยงามมากจนเกินไป แต่ควรโฟกัสที่เนื้อหาเป็นหลัก อีกทั้งการใช้เทมเพลทสำเร็จจากบางเว็บไซต์ในการออกแบบหรือใส่การภาพกราฟิกมากเกินไป ยังเสี่ยงที่ AI จะประมวลผลไม่ได้อีกด้วย ดังนั้นควรเน้นแบบเรียบง่ายไว้ก่อนดีกว่าหากคุณไม่ได้สมัครงานสายออกแบบหรือครีเอทีฟ - ทักษะไม่ควรใส่เป็นค่าพลัง ควรอ้างอิงจากผลทดสอบที่มีมาตรฐาน
เทมเพลทเรซูเม่สำเร็จรูปบางประเภท ในช่องทักษะมักมีให้ใส่ระดับทักษะเป็นดาวบ้าง ค่าพลังบ้างซึ่งการประเมินระดับทักษะแบบนี้ไม่มีประโยชน์อะไรเนื่องจากเป็นการประเมินที่ใช้ความรู้สึกของผู้สมัครเอง เกณฑ์ในการให้ค่าพลังของผู้สมัครแต่ละคนก็ไม่แน่นอน ดังนั้นผู้สมัครควรเลือกอ้างอิงจากผลทดสอบที่ได้รับการยอมรับ เช่น หากเป็นระดับภาษาอังกฤษก็ควรใช้ผลคะแนน TOEIC หรือหากไม่มีผลทดสอบก็ควรระบุตามเกณฑ์ทั่วไปที่นิยมใช้กัน เช่น native, fluent, good, fair เป็นต้น - นอกจากทักษะที่เป็น hard skill ผู้สมัครก็สามารถระบุ soft skill ในเรซูเม่ได้
เมื่อพูดถึงทักษะเรามักจะนึกถึง hard skill อย่างพวกความสามารถในการใช้โปรแกรมต่างๆ จนลืมใส่ soft skill ที่มีความสำคัญไม่แพ้กันลงไปในเรซูเม่ เพราะ soft skill เป็นทักษะที่องค์กรมองหาในตัวของผู้สมัครอย่างมาก หากผู้สมัครมี soft skill ด้านไหนที่โดดเด่นก็ควรระบุลงไปในเรซูเม่ด้วยเพื่อให้ HR ได้ทราบ และให้ AI สามารถสแกนเจอทักษะที่องค์กรมองหาได้ง่ายขึ้น - ควรระบุผลงานหรือความสำเร็จจากงานที่ทำ ควบคู่กับประสบการณ์การทำงานด้วยเสมอ
การเขียนอธิบายหน้าที่และความรับผิดชอบในการทำงานเพียงงานอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอให้คุณโดดเด่นจากผู้สมัครคนอื่น ผู้สมัครจึงควรระบุผลงานหรือความสำเร็จจากงานที่ทำลงไปด้วยเพื่อให้มีสิ่งยืนยันว่าเราเชี่ยวชาญในสิ่งนั้นมีความสามารถในการทำงานได้จริง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับตัวผู้สมัคร ผู้สมัครสามารถดูตัวอย่างการระบุความสำเร็จในประสบการณ์การทำงานโดยใช้เทคนิค action verb เพิ่มเติมได้ในบทความนี้เลย - งานจิตอาสา ฝึกงาน งานรับจ้าง ก็สามารถใส่ไปในเรซูเม่ได้ หากเนื้องานมีทักษะที่สอดคล้องกับงานที่สมัคร
เรามักจะคิดว่าการฝึกงาน งานจิตอาสา หรืองานรับจ้างทั่วไป เช่น รับจ้างแปลเอกสาร รับทำขนม งานพาร์ทไทม์ หรืองานอื่นๆ อย่างการทำเพจเฟซบุ๊ก ที่ไม่ได้เป็นงานประจำหรือเป็นงานที่มีเงินเดือนนั้น ไม่สามารถเขียนลงในเรซูเม่ได้ แต่ที่จริงแล้วงานเหล่านี้สามารถใส่ในประสบการณ์การทำงานของเราได้ หากเนื้องานมีทักษะสอดคล้องกับงานที่สมัคร น้องๆ นักศึกษาจบใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์มากนักสามารถพิจารณานำประสบการณ์เหล่านี้ใส่ไปในเรซูเม่ได้เพื่อให้ประวัติเราดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น - ไม่จำเป็นต้องใส่ข้อมูลที่ไม่จำเป็น เช่น ศาสนา งานอดิเรก สถานะ บุคคลอ้างอิง
บางครั้งพอทำเรซูเม่เสร็จแล้วเห็นที่โล่งๆ ก็อาจจะอยากใส่อะไรลงไปให้เต็ม บางคนก็อาจจะใส่ข้อมูล ศาสนา งานอดิเรก สถานะว่าโสดหรือสมรส น้ำหนักส่วนสูง หรือกระทั่งชื่อบุคคลอ้างอิงลงไป แต่ข้อมูลเหล่านี้ไม่มีความจำเป็นที่ผู้สมัครต้องใส่เลยหากในประกาศรับสมัครงานไม่ได้ระบุเอาไว้ ข้อมูลเหล่านี้หากทาง HR หรือผู้ว่าจ้างอยากทราบ ก็สามารถรอถามในขั้นตอนสัมภาษณ์งานได้ อีกทั้งในบางองค์กรโดยเฉพาะอย่างยิ่งในองค์กรต่างชาติข้อมูลเรื่องศาสนา สถานะ หรือน้ำหนักส่วนสูงนั้น องค์กรจะไม่ใช้เลยเพื่อลดอคติในการสรรหาที่อาจเกิดจากปัจจัยเหล่านี้ ยกเว้นในบางกรณีและบางอาชีพที่จำเป็น เช่น พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่จำเป็นต้องมีเกณฑ์ด้านส่วนสูง หรือ การรับสมัครพนักงานร้านอาหารที่ขายเมนูหมูก็อาจไม่เหมาะสำหรับผู้สมัครที่มีศาสนาอิสลาม เป็นต้น
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับทริคในการทำเรซูเม่ที่ Adecco คัดมาฝากกัน หากผู้สมัครอยากทราบเคล็ดลับและเทคนิคดีๆ ในการเขียนเรซูเม่และสมัครงานเพิ่มเติมก็สามารถอ่านบทความของเราในหมวด Resume Writing & Interview ได้เลย รับรองว่าช่วยเพิ่มโอกาสในการสมัครงานมากขึ้นได้อย่างแน่นอน